"เด็ก คือ อนาคตของชาติ" หรือ "เด็กในวันนี้ คือ ผู้ใหญ่ในวันหน้า"
นับเป็นคำพูดที่คนทั่วไปมักจะใช้อยู่เป็นประจำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอนาคตของประเทศจะพัฒนาไปในทิศทางใดนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของเยาวชนรุ่นใหม่
เพราะเด็กเปรียบเสมือนผ้าขาวที่รอให้ผู้ใหญ่มาแต่งแต้ม ประกอบกับการที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์
4.0 การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ
ผ่านเทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และการก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุสมบูรณ์แบบ
(Aging Society) ภายในเวลาประมาณ 15 ปีหลังจากนี้
เป็นแรงผลักดันให้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพเยาวชนไทยให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและการแข่งขันบนเวทีโลก
EF กับคุณภาพเด็กไทยในยุคไทยแลนด์
4.0
จากการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์นานาชาติด้านประสาทวิทยา
จิตวิทยา และการศึกษา พบว่าการพัฒนาศักยภาพของเด็กให้เป็นทุนมนุษย์ที่มีคุณภาพเพื่อตอบโจทย์โลกยุคใหม่ให้ได้นั้น
จำเป็นต้องพัฒนาจากรากฐานความเข้าใจต่อธรรมชาติและการทำงานของสมองเป็นสำคัญ ประเด็นดังกล่าวเป็นหัวข้อที่นักวิชาการได้นำมาเสวนากัน
ภายใน การประชุมวิชาการ EF Symposium 2017 เรื่อง “สมองเด็กไทย
รากฐานทุนมนุษย์เพื่ออนาคตประเทศไทย โดย โครงการ “ดาว-อีเอฟ พัฒนาเยาวชนสู่ความสำเร็จ เพื่อระยองผาสุก” เป็นหนึ่งในโครงการนำร่องที่ริเริ่มโดยกลุ่มบริษัท
ดาว ประเทศไทย และ 19 หน่วยงานในจังหวัดระยอง ประกอบไปด้วย ผู้นำชุมชน ครู อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บุคลากรทางด้านสาธารณสุข ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
และแกนนำจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2559
เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการดูแลเด็กปฐมวัยในจังหวัดระยองด้วยองค์ความรู้ Executive
Functions (EF) หรือทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จ
นอกเหนือจากการสนับสนุนของรัฐบาลในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเตรียมความพร้อมประเทศเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 แล้ว
การเตรียมความพร้อมทางด้านสังคมและการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชนในสังคมที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
หลายภาคส่วนได้หันกลับมาให้ความสนใจกับการพัฒนากระบวนการคิดของเด็กผ่านทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จ
(Executive Functions) หรือ EF ซึ่งอยู่ในสมองส่วนหน้าของมนุษย์
(prefrontal cortex) ที่ควบคุมกระบวนการคิดและพฤติกรรมในเด็กตั้งแต่ช่วงอายุ
0-6 ปี จนถึงวัยรุ่น ทักษะนี้ไม่เพียงแต่เสริมสร้างให้เด็กเป็น “คนเก่ง” ในอนาคต แต่ยังปลูกฝังให้เป็น “คนดี” ของสังคมได้อีกด้วย
อีกทั้งช่วยหล่อหลอมให้เด็กรู้จักกล้าแสดงออกในทางที่ถูก
รู้จักริเริ่มลงมือทำเมื่อเกิดไอเดียใหม่ ๆ ไม่กลัวที่จะซักถามหรือตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว
และกล้าที่จะค้นคว้าหาคำตอบ เป็นการวางรากฐานเพื่อสร้างวินัยเชิงบวกให้กับเยาวชนไทย
การสร้างสังคมแห่ง EF
เพราะเด็กที่มีคุณภาพในวันนี้จะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพในวันหน้า
ความร่วมมือร่วมใจในการอบรมและเลี้ยงดูจึงไม่ใช่หน้าที่ของผู้ใดผู้หนึ่ง
หากต้องอาศัยความรัก ความเอาใจใส่ และความตั้งใจจริงจากทุกคนในสังคม
เพื่อร่วมป้องกันและแก้ปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับเด็กและเยาวชนไทย
โครงการ “ดาว อีเอฟ
พัฒนาเยาวชนสู่ความสำเร็จ เพื่อระยองผาสุก” เป็นความตั้งใจของ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย
ในการให้การสนับสนุนการขับเคลื่อนองค์ความรู้ EF อย่างมีส่วนร่วมและสอดคล้องกับบริบทไทยเพื่อให้ทุกคนในสังคมไปปรับใช้ทั้งกับตนเองและการดูแลเด็ก
เพื่อสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพและรากฐานการพัฒนาประเทศที่แข็งแกร่ง
พร้อมรับยุคไทยแลนด์ 4.0 นางภรณี กองอมรภิญโญ
ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ กล่าวว่า “กลุ่มบริษัท
ดาว ประเทศไทย เป็นหนึ่งในผู้ที่เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาทักษะ EF ในเด็ก ผ่านการสร้างภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง ทีมงานคณะยุทธศาสตร์แผนพัฒนาบ้านฉาง
สถาบันรักลูก ผู้นำชุมชน ครู อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และแกนนำจากภาคส่วนต่าง
ๆ รวมถึง “ทีมแกนนำวัคซีนชีวิต” เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ทักษะ
EF แบ่งปันประสบการณ์
มีการขยายผลและติดตามอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการนำทักษะความรู้เฉพาะทางและเทคนิคที่แต่ละคนมีนำมาใช้
ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนให้โครงการประสบความสำเร็จ”
จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในรอบสิบปีที่ผ่านมาพบว่า
การอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่หรือครอบครัวที่มี พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่
และลูกหลานอยู่ด้วยกันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่าร้อยละ 35.9[1] สมาชิกทุก ๆ
คนในบ้านจึงมีบทบาทในการเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพ ซึ่งการฝึกทักษะ
EF ในเด็กนั้นสามารถเริ่มต้นได้จากครอบครัว ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร. นายแพทย์วรสิทธิ์ ศิริพรพาณิชย์ กล่าวว่า “การพัฒนา EF ในเด็กนั้นมีความเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับศาสตร์ด้านประสาทวิทยาเกี่ยวกับกระบวนการทำงานของสมองระดับสูง
โดยเฉพาะการทำงานของสมองส่วนหน้า โดย EF นั้นมีทักษะที่เป็นองค์ประกอบ
3 ส่วนคือ กลุ่มทักษะพื้นฐาน กลุ่มทักษะปฏิบัติ
และกลุ่มทักษะกำกับตนเอง ที่จำแนกออกมาเป็น
9 ทักษะย่อย
อีเอฟไม่ใช่ทักษะที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
จนก่อให้เกิดเป็นโครงสร้างค่อนข้างถาวรอยู่ในสมอง และทำให้เส้นใยประสาทแตกขยาย จนกลายเป็น
“วิธีคิด” ที่เป็นแบบแผนของแต่ละบุคคลไปตลอดชีวิต
ซึ่งช่วงอายุที่สำคัญที่สุดของการปูพื้นฐานให้แก่เยาวชนไทยคือ 3-6 ปี และด้วยคุณสมบัติของสมองที่มีความยืดหยุ่น จะทำให้เราสามารถพัฒนาทักษะอีเอฟไปได้จนถึงช่วงผู้ใหญ่ตอนต้น
ดังนั้นการเสริมสร้างพื้นฐานที่ดีตั้งแต่แรกเริ่ม จะมีส่วนช่วยสนับสนุนด้านการเรียนรู้ของเยาวชนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
คิดเป็น ทำเป็น หล่อหลอมพฤติกรรมให้ดีอย่างรอบด้าน
และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ไม่ข้องเกี่ยวกับอบายมุข สิ่งเร้า
และสารเสพติดต่าง ๆ รอบตัว”
เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ
2561 ที่ผ่านมา กลุ่มดาวอาสารวมถึงแกนนำวัคซีนชีวิตในชุมชนยังได้รวมตัวกัน
เพื่อเป็นพี่เลี้ยงและทำกิจกรรมเสริมสร้างทักษะอีเอฟร่วมกับเด็กและผู้ปกครองในชุมชนบ้านฉาง
กิจกรรมที่คัดสรรมามีจุดประสงค์เพื่อให้เด็กได้พัฒนาทักษะแบบรอบด้าน อาทิ
“กิจกรรมดนตรี อีเอฟ” แบ่งกลุ่มรับผิดชอบเครื่องดนตรีแต่ละประเภท
และออกคำสั่งด้วยสัญลักษณ์ เด็ก ๆ
จะจดจ่ออยู่กับสัญลักษณ์และควบคุมตัวเองผ่านคำสั่งสนุก ๆ หรือกิจกรรม “ฐานปริศนา ท้าความจำ” และ “ฐานแต่งแต้มปูนปั้น
สร้างสรรค์อีเอฟ” เป็นต้น ซึ่งการเล่นเกมและกิจกรรมต่าง ๆ
มีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
ให้โอกาสในการลองผิดลองถูก ประเมินตนเอง ฝึกแก้ไขปัญหา ได้รับแรงบันดาลใจ
ตัดสินใจด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือได้ใช้เวลากับผู้ปกครอง บุคคลใกล้ชิด
และกลุ่มเพื่อนช่วยพัฒนาอารมณ์และการเข้าสังคมที่ดี
ปัจจุบัน โครงการ “ดาว อีเอฟ
พัฒนาเยาวชนสู่ความสำเร็จ เพื่อระยองผาสุก” มีสถานศึกษาเข้าร่วม 65 แห่ง สถานสาธารณสุข 11 แห่ง ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีแกนนำวัคซีนชีวิตแล้วทั้งสิ้น 240 คน ซึ่งได้ร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนากิจกรรมส่งเสริมอีเอฟในชุมชนจังหวัดระยองแล้วกว่า
60 กิจกรรม รวมมีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 60,000 คน ซึ่งความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพสูงจะช่วยขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง
โดยเฉพาะในอนาคตที่มีแนวโน้มการแข่งขันสูง ดังนั้นความมุ่งมั่นจดจ่อ
และรู้จักผลักดันตนเองไปสู่เป้าหมายชีวิต ด้วยการใช้สติคิดไตร่ตรอง
จะทำให้เยาวชนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล และสามารถประสบความสำเร็จในระยะยาวได้อย่างมีความสุข
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น