Dow 5 องค์กรชั้นนำร่วมลดขยะอย่างยั่งยืน ดัน “กรีนพลาส พาเลท” ไม้เทียมจากพลาสติกใช้แล้วเพื่องานขนส่งอุตสาหกรรม

 








Dow Pack Guru ชี้อนาคตเทรนด์บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกมาแรง

เน้นนวัตกรรมลดโลกร้อน แก้ปัญหาขยะและสร้างความยั่งยืน

 

กรุงเทพฯ – 29 ตุลาคม 2564กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ผู้นำด้านวัสดุศาสตร์ (Materials Science) มีความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาความท้าทายของโลกด้วยวิทยาศาสตร์และการมีส่วนร่วม เมื่อเร็ว ๆ นี้ในงานประชุมวิชาการนานาชาติ 47th International Congress on Science, Technology and Technology-based Innovation ซึ่งจัดโดยสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยฯ ทีม Dow Pack Guru ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านแพคเกจจิ้ง ได้ร่วมสัมมนาเรื่อง นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนสำหรับบรรจุภัณฑ์แห่งอนาคต” พร้อมกับแบ่งปันประสบการณ์ในโลกธุรกิจแพคเกจจิ้งเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่จะช่วยลดโลกร้อนและแก้ปัญหาขยะได้อย่างไร

การผลิตบรรจุภัณฑ์ในยุคนี้นอกจากคำนึงถึงเรื่องความทนทานและความสวยงามแล้ว ยังต้องตอบโจทย์ของความยั่งยืนที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งกลายเป็นพันธกิจสำคัญสำหรับบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ทั้งหลายที่จะต้องร่วมกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อช่วยกันสร้างบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก

ปัจจุบันลูกค้าหันมาสนใจเรื่องการพัฒนาบรรจุภัณฑ์แบบยั่งยืนเกือบ 99% จึงทำให้ Dow เห็นความสำคัญของการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อมาพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอนาคต โดย Dowมีนักวิจัยมากถึง 7,000 คนทั่วโลกเพื่อค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

ชมพูนุช จันทร์บัว Marketing Development Manager กล่าวถึงแนวโน้มของบรรจุภัณฑ์ในอนาคต นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการป้องกันสินค้าที่อยู่ภายในไม่ให้เสียหาย สามารถช่วยยืดอายุของอาหาร มีรูปแบบสวยงาม และสามารถนำไปใช้งานได้ง่าย สะดวกสบายแล้ว ยังมีอีกเทรนด์ที่กำลังมาแรงที่ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ต้องให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นคือการออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์แบบรักษ์โลก โดยเริ่มตั้งแต่ออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ง่าย หรือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เม็ดพลาสติกในการผลิตน้อยลงแต่ยังคงความแข็งแรงได้ดีดังเดิม  รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น

Dow ได้มีการกำหนดเป้าหมายและขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง มีผลการดำเนินงานที่สามารถวัดผลได้จริงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา และมีเป้าหมายการทำงานด้านความยั่งยืนอย่างชัดเจนใน 2 พันธกิจหลัก โดยมุ่งเน้นในการลดคาร์บอนเพื่อลดโลกร้อนเพื่อให้บรรลุสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น zero carbon และอีกหนึ่งเป้าหมายที่สำคัญคือเรื่องการกำจัดขยะพลาสติกในสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นหยุดขยะพลาสติกไปจนถึงการส่งเสริมวงจรรีไซเคิลเพื่อเพิ่มผลกระทบในเชิงบวกต่อสังคม ลูกค้า และธุรกิจของ Dow

อนุรักษ์ รัศมีอมรวิวัฒน์ Technical Service and Development  &Climate Change Specialist ได้กล่าวเสริมในประเด็นของคุณสมบัติบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกว่า “ปัจจุบันมีความท้าทายเรื่องความยั่งยืนของบรรจุภัณฑ์อยู่ 2 เรื่อง คือทำอย่างไรให้เกิดการหมุนเวียนนำกลับมาใช้ซ้ำหรือเรียกว่าการกำจัดซากด้วยวิธีการที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ส่วนอีกเรื่องคือภาวะโลกร้อนที่โลกกำลังให้ความสำคัญกับการลดคาร์บอน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดก๊าซเรือนกระจก”

สำหรับวงจรของบรรจุภัณฑ์ที่มีการหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ได้นั้นมีอยู่ 3 ขั้นตอนคือ 1) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้  2) การจัดเก็บบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วกลับเข้ามาในวงจรรีไซเคิล และ 3) การนำวัสดุที่มีสัดส่วนของวัสดุที่ได้มาจากกระบวนการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์อีกครั้ง

Dow มีผลิตภัณฑ์ของเม็ดพลาสติกมากมายเพื่อเป็นโซลูชันให้ทั้งเจ้าของแบรนด์สินค้า (brand owner) และโรงงานแปรรูปพลาสติก (converter) เลือกนำไปใช้พัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้าให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% นอกจากนี้ Dow ยังมีนวัตกรรมเม็ดพลาสติกรีไซเคิลซึ่งผลิตจากกระบวนการ Mechanical Recycling ซึ่งได้รับรางวัลRingier Technology Innovation Awards”

เมื่อลงลึกถึงกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนนั้น รังสรรค์ เชาว์สุวรรณกิจ Technical Service Manager ได้กล่าวถึงแนวโน้มการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่นำเสนอโซลูชันใหม่ ๆ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าว่า เทรนด์ที่ลูกค้าสนใจคือการทำฟิล์มบรรจุภัณฑ์ที่บางและแต่ยังคงความแข็งแรงเหมือนเดิม รวมทั้งการนำ PCR (post-consumer recycled) Resin ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกที่มีส่วนผสมของพลาสติกที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภคในสัดส่วน 40% สามารถนำมาผลิตเป็นฟิล์มหดรัดสินค้าที่ยังคงคุณสมบัติเทียบเท่ากับฟิล์มที่ทำมาจากเม็ดพลาสติกใหม่ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เม็ดพลาสติกใหม่แล้ว จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 17% และประหยัดพลังงานได้กว่า 30% โดยประมาณ (ขึ้นอยู่กับปัจจัยประกอบ) ซึ่งช่วยให้ โรงงานแปรรูปพลาสติก (converter) เจ้าของแบรนด์สินค้า (brand owner) และบริษัทค้าปลีก( Retailer) บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของ

About แอดมิน

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.

ผู้สนับสนุน