ตำรวจทำงานเร็วรวบ 2 โจรอุ้มหนุ่มยูเครนไปรีดทรัพย์ สารภาพมีมาเฟียต่างชาติในพัทยาว่าจ้าง
คดีกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็น ตร.อุ้มนักท่องเที่ยวชาวยูเครนไปกรรโชกทรัพย์นับล้านเพื่อแลกกับอิสรภาพเริ่มคลี่คลาย ล่าสุดตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี ร่วมกับชุดสืบสวนโรงพักพัทยา บุกรวบ 2 คนร้ายหนุ่มเมืองเหนือได้แล้ว ก่อนขยายผลขออำนาจศาลออกหมายจับมาเฟียชาติเดียวกันกับเหยื่อ เจ้าของบริษัทชื่อดังในเมืองพัทยาในข้อหาผู้จ้างวาน
กรณีเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (25 ก.ย.) นายโอเล็กซานเดอร์ คอนดราเทนโก้ อายุ 29 ปี สัญชาติยูเครน เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พิทักษ์ เนินแสง ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาย่อยโค้งดงตาล จ.ชลบุรี ว่าขณะเจรจาซื้อขายรถจักรยานยนต์กับชาวต่างชาติคนหนึ่งบริเวณหน้าโรงแรมเชคเปียร์ ซอยเวลคัม ย่านชายหาดจอมเทียน แล้วถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรวม 4 คน จับตัวไปกักขังแล้วอ้างว่าทำผิดกฎหมาย ก่อนข่มขู่กรรโชกทรัพย์เป็นเงินสดกว่า 1 ล้านบาทเพื่อแลกอิสรภาพ
จนกระทั่งขณะกลุ่มคนร้ายพาไปยืนรอเอาเงินที่ยืมจากเพื่อน ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น หน้าโรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้ จอมเทียน เหยื่อจึงร้องตะโกนจนมีนักท่องเที่ยวชายชาวรัสเซียจำนวน 2 คนมาช่วย จนคนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงพากันรีบขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีน้ำตาล ไม่ทราบทะเบียน ขับหลบหนีไป ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าของคดีนี้เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 ก.ย.56 พ.ต.อ.รณชัย จินดามุข ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี ร.ต.อ.กัมปนาท ฤทธิ์เพชรนิล รอง สว.สส. นำกำลังตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ประสาน พ.ต.ท.ภูมิสิทธิ์ สิงห์เถื่อน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา นำหมายศาลจังหวัดพัทยา จับกุมนายอาชาไนย อินปั๋น อายุ 20 ปี และนายปิยะ อินปั๋น อายุ 35 ปี ชาว อ.เทิง จ.เชียงราย 2 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุบุกจับตัวนายโอเล็กซานเดอร์ คอนดราเทนโก้ ไปกรรโชกทรัพย์ ขณะเดินอยู่ริมถนนสายพัทยาใต้ จึงคุมตัวมาสอบสวน
โดยนายอาชาไนย ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ได้มีชายชาวต่างชาติชื่อ นายอิลเลีย เมียซไนคอฟ (MR.ILLIA MIASNIKOV) อายุ 48 ปี สัญชาติยูเครน เจ้าของบริษัท เรียลไดม่อนด์ทีวี จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 380/31-32 ริมถนนสาย 2 จอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ให้ไปจับตัวนายโอเล็กซานเดอร์ ที่หน้าโรงแรมเชคเปียร์ ซอยเวลคัม ย่านชายหาดจอมเทียน โดยอ้างว่าเหยื่อรายนี้เป็นหนี้อยู่นับล้านบาท หากได้เงินมาก็จะแบ่งให้แต่ยังไม่ระบุจำนวนที่แน่ชัด
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนโรงพักพัทยา นำหมายจับศาลจังหวัดพัทยา เข้าจับกุมนายอิลเลีย เมียซไนคอฟ ได้ที่บริษัทฯ ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาอีกคนที่ร่วมก่อเหตุทราบชื่อภายหลังคือ นายวุฒิภัทร ทิมเที่ยง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 2 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ได้ชิงเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า จากคำให้การของนายโอเล็กซานเดอร์ ผู้เสียหาย ในตอนแรกที่ระบุและชี้ภาพยืนยันว่า ส.ต.สามารถ อินปั๋น อายุ 51 ปี อดีตทหารนอกราชการ เป็นหนึ่งในคนร้ายและมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น แต่ความจริงแล้ว ส.ต.สามารถ ซึ่งปัจจุบันเป็นข้าราชการอยู่ที่เชียงราย และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่ภายหลังได้สอบปากคำผู้เสียหายอีกครั้ง เจ้าตัวก็ยอมรับว่าจำคนผิด เพราะหนึ่งในผู้ต้องหามีใบหน้าที่คล้ายคลึงกัน ส่วนนายอิลเลีย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาจ้างวานผู้อื่นฯ และขู่กรรโชกทรัพย์ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยาดำเนินคดีตามกฎหมาย
แหล่งข่าวคนหนึ่งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่นายอิลเลีย หนุ่มใหญ่แดนหมีขาวรายนี้ พักอาศัยอยู่ในเมืองพัทยา มักมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางตั้งตัวเป็นมาเฟีย โดยเฉพาะการหลอกลวงชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย ที่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองพัทยา หากใครมีปัญหาเรื่องการทำธุรกิจ หรือเกิดคดีความต้องขึ้นโรงขึ้นศาลต่างๆ นานา นายอิลเลีย ก็จะเสนอเป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยพร้อมกับเรียกเงินค่าดำเนินการเป็นจำนวนมาก หากใครไม่ยอมจ่ายก็จะส่งคนไปข่มขู่คุกคาม กระทั่งล่าสุดมาก่อเหตุกับหนุ่มชาวยูเครน จนถูกตำรวจตามจับกุมตัวดังกล่าว.
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น