สระแก้วตื่นเสียงปริศนาดังกึกก้ องทั้งจังหวัด
กรณีเมื่อเวลา 17.30 น ของวันที่ (8มิย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเสี ยงปริศนาดังคล้ายระเบิดกึกก้ องจนบ้านสั่นสะเทือน โดยไม่ทราบที่มาของเสียง ทำให้เกิดข้อสงสัยต่างๆนานา จนกระทั่งกลายเป็นที่กล่าวขานกั นในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะเฟซบุ๊คกลุ่มที่มีชื่ อของจังหวัดอย่าง "สถานการณ์น้ำใจ...สระแก้ว" "สถานีข่าว @ ณ สระแก้ว มีเหตุแจ้งข่าว มีด่าน บอกด้วย" และชมรมคนรักสระแก้ว ได้แจ้งข่าว อย่างมากถึงที่มาของเสียงดังกล่ าวว่าคาดว่าได้ยินเสียงจากบนท้ องฟ้า ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามี ประชาชนตามสถานที่ต่างๆ ได้ยินคลอบคลุมทั้ง 9 อำเภอของจังหวัดสระแก้ว รวมทั้งมีรายงานว่ าแถวอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ก็ได้ยินเสียงดังในช่วงเวลาดั งกล่าวเช่นกัน
*****นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งจากประชาชนก็ ได้สั่งการให้ป้องกั นและบรรเทาสาธารณภัยจังหวั ดสระแก้วรวมทั้งนายอำเภอทุ กอำเภอออกไปตรวจสอบสาเหตุที่ มาของเสียงดังกล่าว และสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าไม่มีใครทราบที่ มาของเสียงและไม่มี รายงานความเสียหายในพื้นที่จั งหวัดสระแก้ว ซึ่งจากการสันนิษฐานเสียงดังกล่ าวน่าจะมาจากบนท้องฟ้าเหนื ออำเภอวัฒนานคร ซึ่งเป็นศูนย์กลางของจังหวั ดสระแก้ว เพราะมีประชาชนแถวอำเภอชายแดนด้ านบนอย่างอำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูง อำเภออรัญประเทศ ต่างก็ได้ยินเสียงนี้เช่นกัน
*****เมื่อผู้สื่อข่ าวสอบถามไปยัง พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ภ.สระแก้ว ได้รับแจ้งว่าประชาชนทั่วทั้งจั งหวัด ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง บนท้องฟ้าส่งผลให้กระจกบ้านเรื อนและสำนักงานต่างๆ สร้างความแตกตื่นตกใจแก่ผู้คนทั ่วไป จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจทุกหน่วย ทุกพื้นที่สถานีตำรวจทั้งจังหวั ดเร่งออกตรวจสอบหาที่มาของเสี ยงปริศนา สำรวจความเสียหาย และสืบสวนหาข่าวตรวจสอบพิกัดที่ มาของเสียงระเบิดดังกล่าว โดยเฉพาะว่าอาจเกิดจากการซ้ อมรบของทหารในพื้นที่หรือไม่อย่ างไร โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ล่าสุดเวลา 19.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เปิดเผยว่าว่า ยังไม่มีรายงานเข้ามาถึงสาเหตุ สันนิฐานว่าอาจเกิดจากเสี ยงของเครื่องบินขับไล่ F16 หรือ F 18 บินพาดผ่านแล้วเกิดปฎิกิริ ยาโซนิกบูมหรือบินเร็วกว่าเสียง
*****เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 9 ก.ค.58 น.ต.คณิศร อุตตะมะ ผู้บังคับสถานีรายงานเขาจาน อำเภอวัฒนานคร กองทัพอากาศ ได้ออกมาแจ้งว่า ในเวลา 17.30 น.ของเมื่อวานนี้ ได้ตรวจสอบจากเรด้าห์ในน่านฟ้ าครอบคลุมพื้นที่ จ.สระแก้ว ไม่มีเครื่องบินรบหรือเครื่ องบินความเร็วเหนือเสียง ทำการฝึกหรือบินผ่านน่านฟ้า จังหวัดสระแก้ว ไม่มีอากาศยาน อุบัติการณ์ในจังหวัดสระแก้ว สอบถามคณะเจ้าหน้าที่สถาบั นเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม (สทป.) ซึ่งขณะนั้นกำลังเก็บอุปกรณ์ การปฏิบัติหน้าที่ ทดลองอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ณ สนามบิน 206 (วัฒนานคร) ไม่มีเครื่องเสียหายหรืออุบัติ การณ์ แต่ได้ยินเสียงดังในทิศทางตะวั นตกเฉียงเหนือ บนท้องฟ้าเหนือเมฆ ทำมุมประมาณ 60-70 องศา ไม่ปรากฎแสง ลูกไฟ หรือสะเก็ด แต่อย่างใด ตรวจสอบเรดาห์ก็ไม่พบสิ่งผิ ดปกติหรือสิ่งแปลกปลอมบินผ่านน่ านฟ้าในเวลาดังกล่าว
*****ในขณะที่สถานีรายงานเขาจาน ศูนย์ป้องกันทางอากาศ กองทัพอากาศ ได้ออกมายืนยันผ่าน ทางโทรศัพท์กับสื่อมวลชน จากการตรวจสอบข่ายเรดาร์เหตุ การณ์ที่ประชาชนได้ยินเสียงดั งในจังหวัดสระแก้ว เมื่อเวลา 17.30 น.ว่า ช่วงเวลาดังกล่าวไม่มี อากาศยานของไทย ประเทศเพื่อนบ้าน หรือเครื่องบินพาณิชย์อยู่ในห้ วงอากาศของจังหวัดสระแก้ว เวลาดังกล่าวไม่มีการฝึกซ้ อมหรือทำโซนิคบูมของเครื่องบิ นรบ ไม่มีรายงานเครื่องบินหรื ออากาศยานประสบอุบัติเหตุจนถึ งเวลานี้ (20.30 น.) ส่วนจะเกิดจากสาเหตุอื่นอันใดนั ้น ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ส่วนอื่นต่อไป
*****ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้( 9กค.) เริ่มมีหลายคนตั้งขอสังเกตและมี ผู้เห็นแสงสีเขียวพุ่งเป็ นทางยาวบนท้องฟ้าก่อนที่จะเกิ ดเสียงดังสนั่นไปทั้งจังหวั ดสระแก้ว โดยผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ "Tawakrit Joomjan" บอกว่า "ผมเห็นกับตาตัวเองเลยครับ ผมอยู่วังน้ำเย็น ช่วงประมาณ 17.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ผมกำลังออกกำลั งกายอยู่นั้น ผมก็เห็น แสงสีเขียวๆ กระพริบ ๆ (ถ้าตาผมไม่บอดสีนะ) ฟุ้งเป็นเส้นตก ไม่มีควัน มันเหมือนกับอุกาบาต ซึ่งมองเห็นได้ชัดมากๆ และมันก็หายไป และหลังจากนั้น ไม่น่าจะเกิน 2 นาที ก็มีเสียงอย่างที่ทุกคนได้ยิ นเสียงตอนแรกก็คิดว่าฟ้าร้อง)" ในขณะที่ ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ "พี่ 'หนวด" ได้นำภาพแสงสีเขียวบนท้องฟ้าที่ อ้างว่าเพื่อนของตนเองถ่ายได้ โดยตั้งข้อสังเกตว่า "จุดแรกจะใหญ่เมื่อมันลงแสงค่ อยๆหายไป มันบอกช่วงจังหวะถือกล้องไปบนฟ้ าพอดี ไม่ได้ตั้งใจถ่าย มันก็ถ่ายเล่น จังหวะพอดีนี้มันซูมภาพมาให้ดู"
*****ด้านผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Kurnan Umkaew ซึ่งเป็นคนที่มาโพสเฟสบุ๊ค "สถานการณ์น้ำใจ...สระแก้ว" เป็นคนแรก ออกมาสรุปว่า "ไม่น่าจะมีจุดพิกัดภาคพื้นดิ นนะคะ น่าจะเป็นบนน่านฟ้า ดังขนาดนั้น ถ้าเกิดเหตุภาคพื้น คงมีการรายงานเข้ามาแล้ว ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เกิดเหตุมี การประสานงานของหน่วยงานหลายหน่ วย ก็ยังไม่สามารถค้นหาต้นตอของเสี ยงได้ ทั้งฝูงบิน 206 ยืนยันว่าไม่ได้ทำการบินแต่อย่ างใด และจากศูนย์เรดาร์ บน เขาจาน จับสัญญาณอะไรไม่ได้เลย ซึ่งหมายถึงไม่มีการบิ นจากทางกองทัพ ส่วนตัวนะคะ ส่วนตัวสันนิษฐานว่าอาจจะเป็ นเหตุการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นอยู่เหนือชั้ นบรรยากาศขึ้นไปมากๆ ถึงได้ส่งแรงสะเทือนได้ครอบคลุ มหลายพื้นที่ หรืออาจจะเป็นการทดลองอะไรที่ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพื่อความมั่นคง แม้ว่าเสียงดังระดับนั้ นอาจจะผลให้เกิดความตื่ นตระหนกของคนในพื้นที่ต่างๆที่ ได้ยิน แต่หากไม่มีรายงานความเสี ยหายใดๆเกิดขึ้น ก็นับว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ ายอะไร แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องคาใจกันต่ อไป ส่วนผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Aroon Kahung บอกว่า "สรุปอุกาบาตร เพราะมีท่านที่เห็นแสงสีเขี ยวตอนระเบิดก่อน จากนั้นเสียงก็ดังตามมา ศูนย์กลางน่าเป็นท้องฟ้ าแถวคลองหาดหรือวังน้ำเย็ นเพราะเช็คเวลาจากหลายคน ส่วนที่พื้นที่ๆห่างจากนี้ได้ยิ นช้ากว่าเพราะเสียงต้องใช้ เวลาเดินทางครับ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี จันทบุรี ก็น่าจะได้ยิน
*****นายวรเชษฐ์ บุญปลอด กรรมการวิชาการ สมาคมดาราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่รวบรวมมามีความเห็ นว่าน่าเกิดจากสะเก็ดดาวหรื อดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็กพุ่งเข้ าสู่บรรยากาศด้วยความเร็วสูง อาจมีขนาดใหญ่กว่า 1 เมตร แต่ไม่เกิน 10 เมตร (ประเมินจากความสว่างที่เห็นได้ ในเวลากลางวันและเสียงดังที่ได้ ยิน) แรงอัดกับบรรยากาศที่หนาแน่ นทำให้สะเก็ดดาวระเบิ ดและแตกกระจายที่ความสูงประมาณ 50 กิโลเมตร เสียงดังอาจเกิดจากคลื่ นกระแทกเนื่องจากการเคลื่อนที่ ด้วยเร็วสูงจนเกิดโซนิกบูม ทำนองเดียวกับปรากฏการณ์ที่รั สเซียเมื่อ พ.ศ.2556 แต่ที่เกิดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม มีขนาดเล็กกว่าหลายเท่า หากเป็นสะเก็ดดาวหรือดาวเคราะห์ น้อยขนาดเล็กจริง คาดว่าอาจมีซากชิ้นส่วนเป็นอุ กกาบาตชิ้นเล็ก ๆ ตกบนพื้นดินก็ได้ ซึ่งข้อมูลจากผู้เห็นเหตุการณ์ จากที่ต่าง ๆ ในบริเวณโดยรอบ จะทำให้สามารถบอกทิศทางการเคลื่ อนที่และอาจช่วยให้ สามารถคาดคะเนบริเวณจุดตกของอุ กกาบาตได้
*****กรรมการวิชาการ สมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวอีกว่า การตกของสะเก็ดดาวในลักษณะนี้ เกิดขึ้นเป็นประจำ ส่วนใหญ่เป็นวัตถุขนาดเล็กที่ สามารถเผาไหม้หมดไปในบรรยากาศ นักดาราศาสตร์ประเมินว่าทั่ วโลกมีสะเก็ดดาวขนาด 10 เซนติเมตร เข้าสู่โลกทุก ๆ 2-3 นาที (สว่างประมาณดาวศุกร์) สะเก็ดดาวขนาด 1 เมตร ราวสัปดาห์ละครั้ง สะเก็ดดาวขนาด 10 เมตร ราวปีละครั้ง (สว่างประมาณดวงจันทร์เต็มดวง) และสะเก็ดดาวขนาด 50เมตร ครั้งหนึ่งในรอบ 1,000 ปี แต่การที่พื้นโลกเป็นพื้นน้ำถึง 3 ใน 4 และคนอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ไม่กระจายทั่วทั้งโลก ทำให้ดาวตกที่สว่างมากส่วนใหญ่ เกิดขึ้นในบริเวณห่างไกลจากผู้ คน นาน ๆ ครั้งเราจึงจะมีโอกาสเห็นได้ อีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้คื อเกิดจากการตกของซากจรวดที่ใช้ ในโครงการอวกาศ แต่เท่าที่ตรวจสอบดูไม่พบว่ามี รายงานคาดหมายการตกของขยะอวกาศใ ด ๆ ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์
สมศักดิ์ สารการ ,วีระยุทธ สารการ ,จุฬาลักษณ์ สารการ จ.สระแก้ว 0870210815
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น