PTTGC
จับมือ ยูนิคพลาสติก ขานรับนโยบายรัฐบาล
เปิดโรงงานพลาสติก
แม่สอด พร้อมบุกตลาด CLMV
PTTGC
รุกตลาดการค้าพลาสติกในเมียนมา ร่วมมือกับ ยูนิคอุตสาหกรรมพลาสติก ผู้ผลิตถุงพลาสติกรายใหญ่
เปิดโรงงานพลาสติกเป็นแห่งแรกที่แม่สอด จ.ตาก ตามนโยบาย SEZ ของภาครัฐ
เพื่อขยายตลาดไปยังประเทศเมียนมา โดยเป็นโรงงานพลาสติกแห่งแรกในจังหวัดตาก
ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในกระบวนการผลิต
นายสุพัฒนพงษ์
พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล
จำกัด (มหาชน) PTTGC กล่าวว่า กลุ่มบริษัท พีทีที
โกลบอล เคมิคอล ได้ร่วมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด
จังหวัดตาก
โดยได้ชักชวนให้ผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติกและลูกค้าของบริษัทฯที่ใช้เม็ดพลาสติกในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทต่าง
ๆ ขยายฐานการผลิตมายังพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จังหวัดตาก
ซึ่งปัจจุบันมีผู้สนใจขอรับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
(บีโอไอ) แล้ว 8 บริษัท เงินลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท โดยในวันนี้ บริษัท ยูนิค อุตสาหกรรมพลาสติก (แม่สอด) จำกัด ได้มีพิธีเปิดโรงงานพลาสติกแห่งแรกในสวนอุตสาหกรรมสหพัฒน์
ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตามนโยบายของภาครัฐ ในเรื่องส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
จังหวัดตาก (Special Economic Zone: SEZ) ถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับอุตสาหกรรมพลาสติกของประเทศไทย ที่มุ่งขยายตัวไปในพื้นที่ชายแดน
เชื่อมโยงการค้า การขนส่ง และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมพลาสติกของประเทศไทย
นอกจากนี้
พีทีที โกลบอล เคมิคอล ยังได้ให้การสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์
เพื่อนำมาผลิตไฟฟ้า และนำมาใช้ในกระบวนการผลิตให้กับโรงงานพลาสติกของ บริษัท ยูนิค อุตสาหกรรมพลาสติก (แม่สอด) จำกัด โดยเป็นโรงงานแห่งแรกในจังหวัดตาก
ที่ติดตั้งระบบเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงาน (Solar Roof) ในพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร
มีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากถึง 300 กิโลวัตต์
สามารถทดแทนการใช้ไฟฟ้าถึง 17% ของการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือน
เพื่อให้เป็นโรงงานพลาสติกสีเขียวที่อนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อม
“ปี 2560
เราจะเห็นการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดชัดเจนขึ้น โดยรายแรกมีการผลิตแล้วในช่วงปลายปี 2559 ที่เหลือก็จะทยอยในปี 2560
ซึ่งทั้งหมดจะเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกขั้นพื้นฐาน
เพื่อจำหน่ายตามภูมิภาคของไทยและเพื่อนบ้าน อาทิ กลุ่มแพคเกจจิ้ง ประมง และเกษตรซึ่งการลงทุนนี้จะทำให้เกิดการรวมตัวเป็นคลัสเตอร์พลาสติก
ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันการส่งออกสินค้าไทยและกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคตามนโยบายของรัฐบาล”
นายสุพัฒนพงษ์
กล่าว
ปัจจุบันความต้องการพลาสติกในเมียนมามีประมาณ
200,000-250,000 ตันต่อปี
มีอัตราเติบโตของอุตสาหกรรมพลาสติกอยู่ที่ 10% ต่อปี
มีการนำเข้าพลาสติกขยายตัวกว่า 10% ต่อปี
โดยส่วนใหญ่เป็นการเติบโตของผลิตภัณฑ์อยู่ในกลุ่มพลาสติกเพื่อการอุปโภคหรือพลาสติกในครัวเรือนได้แก่
ถุง ถัง กะละมัง แห อวน โดยตลาดเฉพาะเม็ดพลาสติกในเมียนมา มีขนาด 60,000 ตันต่อปี คาดว่าจะขยายตัวเป็น 2 เท่าในปี 2563
เมียนมามีปริมาณการใช้พลาสติกอยู่ที่ประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี เทียบกับประเทศไทยที่ใช้มากกว่า 20 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่าตลาดยังสามารถขยายตัวได้อีกมาก
บริษัท ยูนิค อุตสาหกรรมพลาสติก
จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2520 เป็นผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตถุงพลาสติกประเภทต่างๆ
เช่น ถุงร้อน ถุงเย็น ถุงอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์แพคเกจจิ้ง พลาสติกเพื่อการเกษตร เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำในด้านการผลิตถุงพลาสติก
ได้ขยายโรงงานมาที่ สวนอุตสาหกรรมสหพัฒน์
อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้นในเขตภาคเหนือ
และมีเป้าหมายขยายตลาดไปยังประเทศเมียนมา เมื่อรวมกำลังการผลิตจากทั้ง 2 โรงงาน
สามารถครอบคลุมการจัดจำหน่ายได้ทั่วประเทศ รวมถึงสามารถส่งออกไปยังตลาดที่สำคัญ
เช่น ประเทศญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
พีทีที
โกลบอล เคมิคอล เป็นบริษัทปิโตรเคมีครบวงจรชั้นนำของประเทศ เป็นแกนนำในธุรกิจ ปิโตรเคมีของกลุ่ม ปตท. เป็นผู้ผลิตปิโตรเลียมและปิโตรเคมีขนาดใหญ่ที่สุดของอาเซียน
มีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีเอททิลีน (PE) จำนวน 1.8 ล้านตันต่อปี
ในปีนี้มีทิศทางและแผนการขยายตลาด การลงทุนในประเทศกลุ่ม
CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) โดยมี
จังหวัดตากเป็นพื้นที่นำร่องเป็นจังหวัดแรก
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น