ดาว
เปิดศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์
เสริมศักยภาพอุตสาหกรรม 4.0 ของไทยเต็มรูปแบบ
ระยอง 22 สิงหาคม 2560 – จากการที่ภาครัฐเร่งเดินหน้าผลักดันโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
หรือ อีอีซี ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านบาท
เพื่อวางรากฐานพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี
และฉะเชิงเทรา ภายในระยะเวลา 5 ปี (2560-2564) และการขับเคลื่อนประเทศสู่อุตสาหกรรม 4.0 ภาคเอกชนถือเป็นตัวแปรสำคัญในการสนับสนุนนโยบายดังกล่าวของไทย
ทั้งทางด้านความรู้ เทคโนโลยี และบุคลากร ล่าสุด บริษัท ดาว เคมิคอล บริษัทชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์ของโลก
ได้เปิดศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย
จังหวัดระยอง ซึ่งนับเป็นศูนย์ฯ ใหม่ล่าสุดของบริษัท ประจำภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก มีเครื่องมือและเทคโนโลยีด้านการวิเคราะห์ขั้นสูงที่ทันสมัยที่สุด
พร้อมด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์และนักวิเคราะห์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง โดยมีมูลค่าเงินลงทุนในการก่อสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีรวมทั้งสิ้นมากกว่า
340 ล้านบาท หรือประมาณกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถรับบุคลากรด้านวิเคราะห์และวิจัยได้
35 ตำแหน่ง
นายจิรศักดิ์
สิงห์มณีชัย กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า
“ศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์แห่งใหม่นี้
นอกจากจะช่วยรองรับการเติบโตของธุรกิจดาวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลกด้วยการสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์
และช่วยแก้ปัญหารวมทั้งเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าแล้ว ยังเป็นแหล่งถ่ายทอดศาสตร์การวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงให้กับบุคลากรไทย
รวมไปถึงการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไทยก้าวไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 อีกด้วย”
นางเคย์
เบิร์นส
ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการด้านการวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ บริษัท
ดาว เคมิคอล กล่าวว่า “ศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์
ของบริษัท ดาว เคมิคอล แห่งนี้เป็นแห่งแรกของดาวในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ที่สามารถประเมินวิเคราะห์อันตรายของปฏิกิริยาเคมีที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างครอบคลุม
ซึ่งถือเป็นการวิเคราะห์เชิงป้องกัน มีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ออกแบบการสร้างโรงงาน
หรือใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อป้องกันการระเบิดหรืออุบัติเหตุจากปฏิกิริยาเคมี เพิ่มความปลอดภัยให้กับการปฏิบัติงานและกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”
นอกจากนี้ เครื่องมือวิเคราะห์ภายในศูนย์ฯ
ยังสามารถรองรับการวิเคราะห์ที่มีความซับซ้อน ทั้งสารเคมีในระดับความเข้มข้นสูงและต่ำ
ในตัวอย่างทุกสถานะ ไม่ว่าจะเป็นของแข็ง ของเหลว และก๊าซ และยังสามารถรองรับการวิเคราะห์สารเคมีได้เกือบทั้งหมดในตารางธาตุ
ด้วยระบบอัตโนมัติและอุปกรณ์ทางการวิเคราะห์ที่หลากหลายในการทำงาน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของนักวิจัยในการสัมผัสกับสารเคมี
ช่วยเพิ่มความแม่นยำของผลวิเคราะห์ รวมถึงลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำงาน
นายพสุ
โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า “กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ต่าง
ๆ เพื่อวางรากฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย โดยสอดคล้องกับแนวคิดการขับเคลื่อนประเทศไทยภายใต้โมเดลประเทศไทย
4.0 ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้เร่งผลักดันแนวคิดการพัฒนาพื้นที่ในลักษณะของ
"เขตเศรษฐกิจพิเศษ" ของรัฐบาล อย่างเช่นโครงการลงทุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
หรือ อีอีซี เพื่อพัฒนาเมืองใหม่ทั้งด้านอุตสาหกรรม การค้า และบริการใน 3 จังหวัด ประกอบด้วย
ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้เข้าไปมีบทบาทในการช่วยส่งเสริมการขยายโรงงานให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมและทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ซึ่งการจัดตั้งศูนย์วิเคราะห์พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย ของกลุ่มบริษัท
ดาว ประเทศไทยนี้ นับเป็นการที่จะช่วยเร่งและเพิ่มศักยภาพนวัตกรรมของประเทศไทยและกลุ่มประชาชาติอาเซียนได้อย่างดียิ่ง
นายมงคล
พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า “กรมโรงงานอุตสาหกรรม
มีบทบาทหน้าที่ในการกำกับดูแลและส่งเสริมอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยมุ่งเน้นให้ภาคอุตสาหกรรมมีการพัฒนาและลงทุนด้านนวัตกรรมมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการสนับสนุนภาคเอกชนให้มีการขยายงานด้านวิจัยและพัฒนา กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงพยายามช่วยขจัดอุปสรรคและลดความซับซ้อนของกระบวนการต่างๆ
ให้เกื้อหนุนต่อการดำเนินงานของผู้ประกอบการ ดังเช่น
การลดความซับซ้อนของการนำเข้าและส่งออกตัวอย่างสำหรับงานวิจัย
ซึ่งทำให้กลุ่มบริษัท ดาว สามารถเปิดศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ได้สำเร็จ”
นายสุรศักดิ์
เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวปิดท้ายว่า “จังหวัดระยองมีแนวทางในการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยมุ่งหวังให้เป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ การดำเนินงานของศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์
ของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสและการขยายตัวของธุรกิจในท้องถิ่น
ส่งผลให้จังหวัดระยองกลายเป็นศูนย์รวมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สร้างความมั่นคงให้แก่เศรษฐกิจของจังหวัด
สร้างนวัตกรรมการผลิต และผลักดันให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีของประเทศรุดหน้าสู่ระดับสากล”
ศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์มุ่งเน้นการพัฒนาในระยะยาวทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากร
ดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน ทางศูนย์ฯ ยังมีนโยบายในการสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ
อาทิ การจัดการอบรม การศึกษาดูงาน การฝึกงานภายในศูนย์ฯ
เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้เรียนรู้ผ่านปฏิบัติการจริง มุ่งเน้นส่งเสริมนิสิตนักศึกษาให้เป็นนักวิจัยที่มีศักยภาพและสร้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น
อันจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 ตามนโยบายของภาครัฐต่อไป
เกี่ยวกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เป็นบริษัทชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย
ประกอบไปด้วย กลุ่มบริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย รวมถึงกลุ่มบริษัทร่วมทุน เอสซีจี-ดาว ทั้งนี้ ดาว ประเทศไทย นับเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของดาวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
และเป็นผู้นำในด้านการนำเข้าเคมีภัณฑ์สำหรับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่หลากหลาย
รวมถึงผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงที่ใช้สำหรับภาคการเกษตรและครัวเรือน ซึ่งกลุ่มบริษัท ดาว
ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และมุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือและเครือข่ายเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งต่อธุรกิจและสังคม
ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ ดาว ประเทศไทย ได้ที่ www.dow.com/thailand หรือ Facebook Dow
Thailand
เกี่ยวกับ ดาว เคมิคอล
บริษัท ดาว เคมิคอล
ผสานพลังของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ
เพื่อความก้าวหน้าและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนในโลก
รวมทั้งเพื่อมุ่งแก้ปัญหาที่ท้าทายยิ่งของโลก อาทิ ปัญหาการขาดแคลนอาหารที่สดใหม่
การคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืนและปลอดภัย น้ำสะอาด การประหยัดพลังงาน
โครงสร้างพื้นฐานที่คงทน และการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้ ดาว เคมิคอล
ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมและขับเคลื่อนตลาดในหลายแขนงรวมกัน
ได้นำเสนอทั้งผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่าง ๆ ที่หลากหลายให้แก่ลูกค้ามากกว่า 175 ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง
เช่น ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมขนส่ง สินค้าอุปโภคบริโภค อิเล็กทรอนิกส์
และธุรกิจเกษตร โดยในปี พ.ศ.2559 บริษัทฯ มียอดขายประมาณ 48,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ประมาณ 1,680,000 ล้านบาท
และมีพนักงานจำนวนกว่า 56,000 คน บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 7,000 กลุ่มรายการ
ซึ่งผลิตจากโรงงาน 189 แห่ง ใน 34
ประเทศทั่วโลก การอ้างอิงถึง “ดาว” หรือ “บริษัท” หมายถึง บริษัท ดาว เคมิคอล และบริษัทในเครืออื่น ๆ เว้นแต่ระบุไว้ชัดเจน
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dow.com
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น