DOW เผยนวัตกรรมดักจับก๊าซเรือนกระจกต้านโลกร้อน
กลุ่มบริษัท
ดาว ประเทศไทย (Dow) ผู้นำด้านแมททีเรียลส์
ไซแอนซ์ (Materials science) ระดับโลก เปิดเผยถึงนวัตกรรมต้านโลกร้อนที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ
โซลูชันดักจับก๊าซเรือนกระจกจากภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ “UCARSOL™” (ยูคาซอล) ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานในกระบวนการดักจับเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ
ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ และสามารถนำก๊าซที่ดักจับได้ไปใช้ประโยชน์ต่อได้ด้วย
เพื่อดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
และ ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (ก๊าซไข่เน่า)
จากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ในปริมาณมาก
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้า และโรงงานปุ๋ย Dow ได้คิดค้นโซลูชัน “UCARSOL™” ซึ่งดักจับก๊าซเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้พลังงานน้อยลงกว่าเดิม
ช่วยต้านโลกร้อน และยังสามารถนำไปเคลมเป็นปริมาณคาร์บอนเครดิตได้อีกด้วย
นายวิชาญ
ตั้งเคียงศิริสิน ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ภูมิภาคเอเชีย กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวถึงนวัตกรรมนี้ว่า
“ดาว ได้พัฒนานวัตกรรม UCARSOL™ เพื่อตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมให้สามารถดักจับก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง
90 % ทั้งยังช่วยประหยัดการใช้พลังงานในกระบวนการ
และสามารถนำทั้งสาร UCARSOL™ เอง และก๊าซที่ดักจับได้หมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก
ปัจจุบันกระแสการรักษาสิ่งแวดล้อมกำลังมาแรง
ทำให้ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่าปีละ 10 %
และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลายประเทศในเอเชียที่มีกฏหมายสิ่งแวดล้อมเข้มงวด
เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ได้นำโซลูชันนี้มาใช้เป็นเวลาหลายปีแล้ว
และได้เริ่มนำมาใช้แล้วในประเทศไทยแต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก
ยกตัวอย่างกรณีศึกษา
ในปี 2563 ลูกค้าโรงกลั่นน้ำมันในประเทศเกาหลีใต้
สามารถลดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซต์ที่ถูกปล่อยออกไปในอากาศได้กว่า 75% และลดพลังงานความร้อนที่ใช้ในกระบวนการดักจับก๊าซได้ถึง
34% หรือเท่ากับลดต้นทุนพลังงานได้ 1 ใน 3 โดยที่ลูกค้าไม่ต้องหยุดการผลิตในระหว่างการเปลี่ยนผ่านเป็นสารตัวใหม่นี้
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า
การหยุดผลิตในอุตสาหกรรมโรงกลั่นนั้นก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งเวลาและงบประมาณมหาศาล
ทั้งนี้ โรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้สามารถลดปริมมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 2,500
ตันต่อปี (เทียบเท่าต้นไม้ 250,000 ต้น) และ ลดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซต์ ได้ 410
ตันต่อปี
อีกตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่น ในปี 2562 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ร่วมกับบริษัทไอซากิ
คูลเจน สร้างโรงไฟฟ้าโครงการนำร่องด้านการลดมลพิษทางอากาศ ได้เลือกใช้ SELEXOL™
Max ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในกลุ่ม UCARSOL™ ที่มีประสิทธิภาพสูงดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 90% และคาร์บอนไดออกไซด์ที่กักเก็บได้จะอยู่ในรูปบริสุทธิ์
99% สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อในอุตสาหกรรมอื่นได้
ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศได้ 150,000 ตันต่อปี
หรือเทียบเท่ากับปลูกต้นไม้ 1.5 ล้านต้น
ในประเทศไทย กลุ่มบริษัท ดาว
ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไออาร์พีซี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ลดปริมาณการใช้ไอน้ำ และลดการใช้พลังงาน โดยสามารถประหยัดพลังงานไอน้ำมูลค่า 41
ล้านบาทต่อปี ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึงประมาณ 30%
และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 20 % หรือ 4,382 ตันคาร์บอนต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า
430,000 ต้น
ขณะนี้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม
นอกจากกฏหมายใหม่ๆ ที่มีบังคับใช้แล้ว
ลูกค้าของภาคอุตสาหกรรมเองก็ยังหันมาเรียกร้องให้ใส่ใจในเรื่องนี้มากขึ้น การลดใช้พลังงานและลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจึงเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้ประกอบการควรลงทุน
ไม่ใช่เพียงเพื่อความยั่งยืนแต่ยังเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
ปัจจุบัน
Dow มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้กว่า 30
สูตร โดยทีมงาน Dow จะเข้าไปประเมินและเสนอสูตรที่เหมาะสมให้แต่ละโรงงานโดยเฉพาะเพื่อความคุ้มค่าในด้านงบประมาณและผลดีสูงสุดในด้านสิ่งแวดล้อม
เราประสบความสำเร็จมาแล้วทั่วโลก รวมทั้งหลายประเทศในเอเชีย
และเราพร้อมที่จะส่งมอบเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้กับโรงกลั่นน้ำมันและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในประเทศไทย” นายวิชาญกล่าวสรุป
###
เกี่ยวกับ ‘ดาว’
Dow (ดาว)
เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกซึ่งพัฒนาและผลิตวัสดุชนิดต่างๆ
ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทแมททีเรียลส์
ไซแอนซ์ (Materials science) อันดับหนึ่งของโลกในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน
ด้วยการทำงานที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และให้การยอมรับบุคคลากรที่มีความหลากหลาย
Dow
มีเป้าหมายที่จะสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับโลกด้วยความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ของเรา
และการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ทั่วโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์ทางวิทยาศาสตร์ของ
ดาว ได้แก่ พลาสติกชนิดต่างๆ เคมีภัณฑ์เพื่ออุตสาหกรรม สารเคลือบผิว และซิลิโคน
ซึ่งเน้นสร้างความแตกต่างเพื่อตอบโจทย์ในตลาดที่มีการเติบโตสูง เช่น บรรจุภัณฑ์
การก่อสร้าง ยานยนต์และการขนส่ง และการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบัน Dow
มีฐานการผลิต 106 แห่งใน 31 ประเทศ และมีพนักงานประมาณ 35,700 คน โดยมียอดขายในปี
2563 ประมาณ 39,000 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dow
ได้ที่ www.dow.com หรือ ติดตาม
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น