รวบแม่ค้าขายกล้วยปิ้งตระเวนลักทรัพย์ตามร้านเสริมสวย



รวบแม่ค้าขายกล้วยปิ้งตระเวนลักทรัพย์ตามร้านเสริมสวย
เผยทำทีไปใช้บริการจนเหยื่อตายใจ ก่อนอาศัยจังหวะเผลอฉกทรัพย์สิน เจ้าของร้านลงทุนนำภาพคนร้ายไปถ่ายเอกสารนับร้อยใบติดประกาศทั่วเมือง สุดท้ายมีคนเห็นแจ้งตำรวจชุดสืบสวนโรงพักบางละมุงบุกรวบคาบ้าน สารภาพกำลังท้อง 3 เดือนและเพิ่งทำมาไม่นาน เพื่อต้องการหาเงินไว้เลี้ยงลูก
ตำรวจบางละมุงรวบแม่ค้ากล้วยปิ้งรายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 26 ก.ย.56 พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.จักรกรินทร์ ทั่วสุภาพ รอง ผกก.สส.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ร.ต.อ.คมวุฒิ ดำรงโภคภัณฑ์ รอง สว.สส. และกำลังตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมนางเบญญาภรณ์ หรือเปิ้ล บุญมา อายุ 37 ปี ชาว อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ อาชีพแม่ค้าขายกล้วยปิ้ง ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ในเคหะสถาน พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง, นาฬิกาข้อมือ 6 เรือน, กระเป๋าถือแบบหญิงยี่ห้อชื่อดังรวม 9 ใบ, รถ จยย. 1 คัน และทรัพย์สินอื่นๆ อีกรวม 8 รายการ โดยมีผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของร้านเสริมสวยจำนวน 3 ราย ชี้ตัวให้จับกุม
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.รติยาภรณ์ อมรอเนกบุญ อายุ 34 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยชื่อ ณัชชาบิวตี้ ตั้งอยู่ในซอยวิทยาลัยมหาดไทย หมู่ 4 ต.บางละมุง อ.บางละมุง และเจ้าของร้านเสริมสวยในพื้นที่ใกล้เคียงกันอีก 2 ราย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ ผกก.สภ.บางละมุง ว่าได้ถูกคนร้ายเป็นหญิงสาวชาวไทยทำทีเข้าไปใช้บริการ ก่อนอาศัยจังหวะเผลอก่อเหตุลักทรัพย์ภายในร้าน
โดย น.ส.รติยาภรณ์ ให้การว่า เมื่อประมาณวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา นางเบญญาภรณ์ หรือเปิ้ล ผู้ต้องหาสาวรายนี้ได้ทำทีเข้าไปใช้บริการเสริมความงาม ทั้งอบไอน้ำและทำผมที่ร้านเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน ซึ่งระหว่างนั้นเจ้าตัวจะพยายามชวนพูดคุยตีสนิทตลอดเวลา โดยในวันสุดท้ายที่เข้าไปใช้บริการ ขณะที่ตนเดินไปเข้าห้องน้ำหลังร้าน น.ส.เบญญาภรณ์ แอบเดินมาปิดล็อคกลอนประตูจากด้านนอกทำให้ออกไม่ได้ ก่อนรื้อค้นทรัพย์สินในร้านประกอบด้วยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเงินสดจำนวนหนึ่ง แล้วหลบหนีไป ตนจึงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจนมีเพื่อนบ้านมาปลดกลอนให้
น.ส.รติยาภรณ์ ให้การอีกว่า หลังถูกสาวแสบลูบคม ด้วยความเจ็บใจตนจึงได้ก็อปปี้ภาพใบหน้าของ นางเบญญาภรณ์ จากกล้องวงจรปิด แล้วนำไปถ่ายเอกสารขนาดเอ 4 ประมาณ 100 ใบ นำไปแจกจ่ายและติดไว้ตามร้านเสริมสวยทั้งในพื้นที่ อ.บางละมุง และ อ.ศรีราชา รวมทั้งนำภาพไปโพสต์ตามสื่อออนไลน์ในอินเตอร์เน็ต เพื่อให้เจ้าของร้านเสริมสวยและประชาชนทั่วไปที่เห็นได้ระวังภัย
กระทั่ง น.ส.กัญญ์ณัฐ ศรีดาเวียง อายุ 38 ปี เจ้าของร้านเสริมสวย แฮร์ช็อปตั้งอยู่ที่ ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา กับ น.ส.ขวัญชนก พุ่มพวง อายุ 31 ปี เจ้าของร้าน แฮร์เฟส แอนด์ สปา  2 ผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อ ไปพบภาพคนร้ายที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งที่ตนติดประกาศไว้ และได้โทรศัพท์มาหา จึงพากันมาให้เบาะแสกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางละมุง จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ดังกล่าว
ด้าน นางเบญญาภรณ์ หรือเปิ้ล ผู้ต้องหารายนี้ให้การอ้างว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยมีสามีมาแล้วและมีลูกด้วยกัน 2 คน หลังเลิกรากันไปจึงมาได้สามีใหม่เป็นช่างทำฝ้าเพดาน และปัจจุบันตนตั้งท้องได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว ส่วนสาเหตุที่ไปตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์เป็นเพราะช่วงนี้เศรษฐกิจฝืดเคือง ไม่มีใครมาอุดหนุนซื้อกล้วยปิ้งเลยต้องตัดสินใจทำ เนื่องจากต้องส่งเสียเลี้ยงดูลูกๆ
ขณะที่ พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา จึงสั่งการให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับเลขที่ จ.621/2556 ลงวันที่ 24 กันยายน 2556 พร้อมกับส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว กระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้มีอาชีพเป็นแม่ค้าขายกล้วยปิ้ง และพักอาศัยอยู่ในบ้านไม่มีเลขที่ ในซอยวัดหนองเกตุใหญ่ หมู่ 6 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จึงนำหมายศาลตามไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากคำให้การของผู้ต้องหาเบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อมากนัก และคาดว่าน่าจะเคยก่อเหตุมาแล้วในหลายท้องที่ หากใครสงสัยว่าจะตกเป็นเหยื่อสามารถเดินทางมาดูตัวและแจ้งความเพิ่มเติมได้ พ.ต.อ.สุภธีร์ กล่าว



About แอดมิน

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.

ผู้สนับสนุน